Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving
ปาวาฬไม่สบาย!!!
พี่นะ [Na ratchada]:
--- อ้างจาก: ตูมตาม ที่ 16 กันยายน 2014, 14:59:28 ---จะกลายเป็นกระทู้ Hot ไปซะละมั้งนี่ :L2754: :L2754: :L2740: :L2740:
--- End quote ---
ผมยังไม่ได้จุดไฟเลยนะ ;)
ตูมตาม:
ขอกลับมาเรื่องอาการของน้องปาวาฬของพี่หยกกันซักนิดนะครับ
ตอนที่1 ปาวาฬไข้ขึ้น
อย่างที่พี่หยกได้เขียนไว้ตอนต้น ผมได้รับแจ้งจากพี่หยกว่ารถมีอาการความร้อนขึ้น แต่ยังไม่ Overheat แค่ขึ้นสูงกว่าปกติมาก โดยพี่หยกแจ้งว่าความร้อนประมาณ 102 องศา เมื่อวิ่งในเมืองในระดับความเร็วกลาง ตอนนั้นพี่หยกจอดรถอยู่ ผมจึงขอให้พี่หยกตรวจสอบเบื้องต้นได้ข้อมูลมาดังนี้
1. ยังไม่สามารถตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำได้ เพราะความร้อนยังสูงอยู่
2. ตรวจรอยรั่วตามทางเดินน้ำ และรอยหยดของน้ำ ไม่พบเห็นการหยดของน้ำ - แสดงว่าไม่มีการรั่วซึมของน้ำออกจากระบบ
3. ตรวจระดับน้ำในหม้อพักน้ำ พบว่าน้ำอยู่ในระดับปกติ แต่พบร่องรอยเหมือนมีน้ำล้นออกจากท่อน้ำล้นของหม้อพัก เห็นรอยน้ำหยดบริเวณใต้ท่อน้ำล้น
ผมสอบถามข้อมูลจากพี่หยกเพิ่มเติมว่าได้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำหรือไม่ ได้รับแจ้งว่ามีการเปลี่ยนปั๊มน้ำเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน หลังจากนั้นไม่ได้ทำอะไรกับรถอีกเลย และอาการความร้อนที่ขึ้นก็เพิ่งเริ่มเป็นได้ไม่นาน ไม่ได้เป็นตั้งแต่ออกจากศูนย์
จากข้อมูลที่ได้ผมวิเคราะห์สาเหตุในใจไว้ดังนี้
1. ความร้อนขึ้นสูงเพราะไม่ไล่อากาศออกจากระบบให้หมดตอนเปลี่ยนปั๊มน้ำ - สาเหตุนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเปลี่ยนมา 2 เดือนแล้ว ถ้าความร้อนจะขึ้นเพราะสาเหตุนี้คงต้องขึ้นตั้งแต่ออกจากศูนย์แล้ว ดังนั้นไม่น่าจะเกิดจากการมีอากาศค้างอยู่ในระบบ
2. ความร้อนขึ้นสูงเพราะวาล์วน้ำเปิดไม่สุด - สาเหตุนี้มีความเป็นไปได้ และทดสอบยาก เพราะถ้าจะดูว่าวาล์วน้ำเปิดสุดหรือไม่ต้องดูตอนเดินเบาว่าความร้อนเดินเบาอยู่ที่เท่าไหร่ (ปกติต้องอยู่ประมาณช่วง 84-86 เพราะวาล์วน้ำเปิดที่ 82) แต่พี่หยกรถความร้อนขึ้นไปแล้ว จึงทดสอบไม่ได้ ต้องรอเครื่องเย็นลงก่อน
จริงๆ เหตุหลักๆของน้องปาที่ความร้อนจะขึ้นน่าจะมาจาก 2 สาเหตุนี้ นอกจากนั้นก็มีเรื่องของการอุดตันในทางเดินน้ำ หรือหม้อน้ำ ซึ่งตรวจสอบยาก และจริงๆรถไม่ได้เก่าถึงขนาดจะมีอาการหม้อน้ำตันได้ และผมรู้สึกเอะใจในเรื่องรอยของน้ำที่ล้นออกที่หม้อพัก แสดงว่าน้ำถูกดันออกจากหม้อน้ำไหลไปทางท่อน้ำล้น จนเต็มหม้อพักแล้วไหลล้นออกไป ซึ่งเป็นอาการที่น้องปาผมไม่เคยเจอ ขนาดว่าตัวร้อนๆยังไม่เคยเจอขนาดนี้ แรงดันอะไร มาจากไหน ถึงดันน้ำให้ล้นออกไปได้นี่คือข้อสงสัย
ผมจึงขอให้พี่หยกพาปาวาฬป่วยมาให้ตรวจสอบกันหน่อย จริงๆที่อยากทดสอบคือเรื่องวาล์วน้ำนะครับ คือจะมาลองไล่อากาศดูอีกซักทีว่ามีอากาศค้างอยู่ในระบบหรือเปล่า วันนั้นพี่หยกนำน้องปาวาฬป่วยเข้าไปที่บ้านพี่โยให้พวกเราลองวิเคราะห์ดู วันนั้นหลังจากประชุมกันเสร็จก็ชวนกันไปดูน้องปาวาฬ อันดับแรกก็เปิดฝาหม้อน้ำ สิ่งที่เจอคือน้ำหายไป เลยเอาน้ำเติมลงไปก่อน เติมลงไปได้ประมาณ .75ลิตร หมายความว่าน้ำหายไปเกือบลิตร ก็ไม่แปลกที่ความร้อนจะขึ้นเพราะน้ำหายไปขนาดนั้น จากนั้นก็สตาร์ทรถเพื่อลองไล่อากาศ นี่คือ VDO ที่ถ่ายไว้คืนนั้น (กบว. ขออนุญาติ Censor เสียงนะครับ)
http://www.youtube.com/watch?v=9MKjyt97xpw
จากที่ตรวจสอบดูกันกับพี่ๆหลายๆคนช่วยกันดู สิ่งปกติแรกที่พบเลยคือตัวน้ำยาหม้อน้ำ พอเปิดฝาหม้อน้ำออกมาปุ๊บทุกคนงงหมดว่าทำไมน้ำยาหม้อน้ำเป็นสีนี้ นี่ไม่ใช่สีของน้ำยาหม้อน้ำแท้ที่ปกติศูนย์บริการจะเติมให้ลูกค้า (เหมือนที่พี่หยกเขียนเปรียบเทียบไว้ให้แล้วนะครับ)
ความผิดปกติที่ 2 จากที่เห็นใน VDO จะเห็นว่ามีอากาศออกมาจากระบบน้ำตลอดเวลา และน้ำถูกดันให้ค่อยล้นออกมาตลอดเวลาเช่นเดียวกันตั้งแต่ความร้อนยังไม่ได้ระดับที่วาล์วน้ำจะเปิด (82) ฟองอากาศก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง สังเกตุช่วงท้ายๆของคลิบนะครับ ฟองอากาศออกมาจากระบบน้ำเยอะมาก เป็นฟองเล็กๆละเอียดๆ ออกมาเยอะเหมือนน้ำเดือดเลย ทั้งๆที่อุณหภูมิของน้ำอยู่แค่ 80 กว่าองศาเท่าน้น
เดี๋ยวมาต่อนะครับ ขอไปปั่นงานแป๊บ
อั๋น ราชพฤกษ์:
:L2740: :L2740: :L2740: :L2740: :L2740:
ตูมตาม:
มาต่อกันครับ
ตอนที่2 หมออนามัยดูอาการ
หลังจากทดสอบพบฟองอากาศออกมาจากระบบน้ำจำนวนมาก ก็มานั่งคิดว่าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง อาการนี้มีส่วนคล้ายอาการที่เรียกว่า "น้ำดัน" ซึ่งจริงๆไม่ใช่น้ำที่ดัน แต่เป็นอากาศที่ดันน้ำออกมา ซึ่งสามารถมาได้จาก 2 สาเหตุหลักคือ ประเก็นฝาสูบแลบ หรือฝาสูบโก่ง ซึ่งทั้ง 2 สาเหตุมีผลอย่างเดียวกันคือ ทำให้น้ำสามารถลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ (กระบอกสูบ) ได้ และขณะเดียวกันแรงอัดอันมหาศาลในห้องเผาไหม้ก็สามารถอัดอากาศให้ลอดออกมาได้เ่ช่นเดียวกัน อาการนี้หากทิ้งไว้นาน น้ำจะค่อยๆหายไปจากที่ลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ และที่ถูกดันให้ไปล้นที่หม้อพัก เมื่อน้ำเหลือน้อยลงระดับหนึ่งจะไม่สามารถระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ทัน ทำให้เกิดอาการ Overheat ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่จะเสียหายเนื่องมาจากความร้อนที่ขึ้นสูงเกินไป
ดังนั้นในวันนั้นเราสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากประเก็นฝาสูบ และมีโอกาสไม่มากที่ฝาสูบจะโก่งเนื่องจากรถยังไม่เคย Overheat ก่อนแยกย้ายจากกันที่บ้านพี่โย พี่อ้วนแจ้งว่าวันรุ่งขึ้นหมออนามัยมีภารกิจตรวจสุขภาพที่ร้านพี่ป๊อบ จึงแนะนำว่าให้พี่หยกลองเอาไปให้หมออนามัยตรวจดูก่อน เพราะเป็นวันอาทิตย์โรงพยาบาล (ศูนย์บริการ) ปิด
หลังจากกลับมาผมเข้าไปหาข้อมูลใน Internet พบว่าถ้ามองจากมุมเฉพาะน้ำที่ล้นออกมา โดยไม่คิดถึงฟองอากาศ การที่น้ำล้นออกมาก็มีโอกาสเป็นไปได้ 2 สาเหตุคือ หม้อน้ำตัน (หรือทางเดินน้ำจุดใดจุดหนึ่งตัน) และวาล์วน้ำไม่เปิด หรือเปิดไม่เต็มที่ ทั้ง 2 สาเหตุมีผลทำให้น้ำเดินทางไม่สะดวก และเมื่อเกิดแรงดันมากขึ้นจากความร้อนที่น้ำได้รับมาจากเครื่องก็มีโอกาสที่น้ำจะอั้น และล้นออกมาทางฝาหม้อน้ำได้ .... ผมวิเคราะห์เองว่าแค่มีโอกาส แต่ไม่มากนัก เพราะทั้ง 2 สาเหตุจะต้องแสดงอาการตั้งแต่ความร้อนตอนเดินเบา เพราะถ้าน้ำเดินทางไม่สะดวก มันต้องไม่สะดวกตลอด จะทำให้ตอนเดินเบาความร้อนสูงกว่าปกติ เหมือนตอนที่น้องปาหนูขาวผมวาล์วน้ำเปิดไม่สุด ก็แสดงอาการออกความร้อนสูงตอนเดินเบา
วันรุ่งขึ้นพี่หยกก็แวะไปที่ร้านพี่ป๊อบให้หมออนามัยตรวจดูเบื้องต้น หมออนามัยลงความเห็นว่าน่าจะมาจากประเก็นฝาสูบเช่นกัน ผมได้คุยกะหมออนามัยทางโทรศัพท์ ลองเสนอไอเดียว่าปัญหาอาจเกิดจากหม้อน้ำตัน หรือวาล์วน้ำเปิดไม่สุด ซึ่งหมออนามัยก็บอกว่ามีโอกาสเป็นไปได้ แต่ไม่มากเพราะมีฟองอากาศออกมาด้วย ถ้ามาจาก 2 สาเหตุนั้นไม่ควรมีฟองอากาศ ควรจะมีแค่อาการน้ำล้นออกมาเฉยๆ และหมออนามัยได้แนะนำให้พี่หยกพาน้องปาวาฬเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างเต็มระบบซะก่อนจะดีกว่า ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นพี่หยกก็จะพาน้องปาวาฬเข้าโรงพยาบาลประจำย่านสาทรต่อไป
ตูมตาม:
ตอนที่3 Second Opinion
วันถัดมาพี่หยกคงเอาน้องปาวาฬเข้าโรงพยาบาลตามที่ได้คุยกันไว้ ผมได้รับแจ้งอีกทีตอนช่วงบ่ายๆ พี่หยกแจ้งว่าหมอที่โรงพยาบาลดังย่านสาทรตรวจสอบแล้วแจ้งว่าไม่พบสิ่งผิดปกติในน้องปาวาฬ ให้นำน้องปาวาฬออกจากโรงพยาบาลได้ และพี่หยกแจ้งว่าได้แจ้งอาการฟองอากาศผุดขึ้นจากหม้อน้ำให้หมอฟังแล้ว แต่หมอก็ยืนยันว่าปกติ พี่หยกจึงนำน้องปาวาฬออกจากโรงพยาบาลก่อน
วันนั้นหลังจากผมได้รับแจ้งข่าวจากพี่หยก ผมก็สงสัยทันทีว่าระดับหมอโรงพยาบาลจะบอกว่าอาการแบบนี้ปกติได้อีกหรือ ด้วยความอยากรู้ และพอดีต้องเดินทางผ่านอีกโรงพยาบาลนึง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ผมพาน้องปาหนูขาวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ จึงแวะเข้าไป ตอนแรกที่เข้าไป ไปเจอกับฝ่ายอะไหล่ก่อนเลยยืนคุยกัน ผมเลยเอาคลิบที่ถ่ายไว้ (ที่โชว์อยู่ในกระทู้ก่อนหน้านี้) ให้ฝ่ายอะไหล่ดู คำถามคำแรกที่ฝ่ายอะไหล่ถามผมกลับมาคือ "เปิดฝาสูบหรือยัง" :L2739: :L2739: :L2739:
ขนาดยังไม่ถึงมือหมอ และยังไม่ได้เล่าอาการให้ฟัง แค่เห็นคลิบ ฝ่ายอะไหล่ยังสรุปได้คร่าวและถามกลับมาแบบนี้ จากนั้นจึงเดินไปถามหมอโรงพยาบาลนี้ดูบ้าง เหมือนเดิมครับ เอาคลิบให้ดู หมอโรงพยาบาลนี้แจ้งเช่นเดียวกับหมออนามัยว่า โอกาสมากที่สุดน่าจะเกิดจากประเก็นฝาสูบ สำหรับวาล์วน้ำหรือหม้อน้ำตันนั้นมีโอกาสบ้างแต่ไม่มากนัก ผมถามต่อว่าถ้านำมาเข้าโรงพยาบาลนี้หมอจะดำเนินการอย่างไร หมอแจ้งว่าคงต้องเปิดเช็ควาล์วน้ำก่อน จากนั้นคงต้องขอเปิดฝาสูบเพื่อตรวจสอบประเก็นฝาสูบว่ามีอาการน้ำข้ามประเก็นหรือไม่
หมออนามัยและหมอโรงพยาบาลดังย่านราชพฤกษ์เห็นตรงกัน และอีก 1 เสียงคือพี่ป๊อบ ผมได้คุยกับพี่ป๊อบเกี่ยวกับอาการรถพี่หยก พี่ป๊อบก็ยืนยันว่าจากประสบการณ์น่าจะมาจากประเก็นฝาสูบเช่นกัน เป็นว่า 3 เสียงเห็นตรงกัน มีเพียงหมอโรงพยาบาลดังย่านสาทรเท่านั้นที่เห็นต่าง
พี่หยกแจ้งว่าจะนำน้องปาวาฬกลับเข้าโรงพยาบาลดังย่านสาทรให้ตรวจสอบอีกครั้ง สำหรับคราวนี้ทิ้งน้องปาวาฬไว้ที่โรงพยาบาล 1 คืน เพื่อให้ตรวจสอบได้อย่างละเอียด
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version