Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
		Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Exterior & Interior Accessories & Car Cares => ข้อความที่เริ่มโดย: พี่โต้ง Tongsom ที่  2 ธันวาคม 2014, 15:20:05
		
			
			- 
				ค่อนข้างมั่นใจว่า สมช.ปามาเนียต้องมีรถมากกว่า 1 คัน หรือ มีเป็น 10 คันก็ว่าได้ 
 จากที่มี สมช. เคยถามคำถาม เรื่อง ดูแลสีรถ พอดีไปอ่านเจอมา ก็จึงนำมาเพิ่มเติมให้อ่านกัน
 
 http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.660.html
 เครดิตและขอขอบคุณคุณ PaPaPy เว็บไซต์ mazda3thailand.com
 
 ก่อนอื่นให้คิดเสียก่อนว่าการรักษารถมีหลายระดับ และหลายความพอใจ หลายคนอาจคิดว่ารถที่พึ่งออกป้ายแดงมาคือสภาพที่ดูดีที่สุด จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ
 เพราะก่อนที่จะส่งมอบถึงมือเจ้าของ รถก็ผ่านการขนส่ง ตากแดดกลางลาน ซึ่งมีฝุ่นเยอะแยะทับอยู่หน้าผิวรถ ทำให้เกิดขี้ไคร  ถ้าขึ้นเรือมาเข้าก็ผ่านไอทะเลหรืออาจจะตากแดดมาพอประมาณแล้ว ดังนั้น รถใหม่ทุกคันจะมีของแถม ที่เรียกว่า " เคลือบ 0 " ซึ่งจะต้องเข้าไปรับบริการดูแลรักษาสี และ ต้องมีเสียค่าใช้จ่าย 4-500 บาท
 และก็ไม่รู้ว่า ใช้น้ำยาประเภทไหน
 
 เริ่มแรกสุดที่แนะนำเลย คือการลูบดินน้ำมันครับ หลายคนอาจจะงงว่าอะไรคือดินน้ำมัน
 ดินน้ำมัน หรือ clay wash แตกต่างจากดินน้ำมันทั่วไปเพราะเป็นดินน้ำมันที่ผลิตมาเพื่อใช้ในงานเกี่ยวกับการดูแลสีรถโดยเฉพาะครับ คุณสมบัติคือการดึงคราบฝังลึกออกจากผิวของรถนั่นแหละครับ สังเกตง่ายๆคือหลังจากลงดินน้ำมันรถจะลูบลื่นขึ้นครับเพราะตัวดินน้ำมันนี้เป็นตัวดึงคราบฝังลึกที่เกิดจากสภาวะภายนอก เช่น คราบเขม่า คราบฝุ่น โคลน มูลนก น้ำฝน
 
 แบ่งตามประสิทธิภาพของมันออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
 1. Regular Grade คือ ดินน้ำมันเกรดที่นิยมใช้งานทั่วไป
 2. Mild Grade หรือ Fine Grade เน้นเรื่องความนุ่มและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ จึงมักลดการเกิดรอยจากการใช้งานได้ค่อนข้างดีกว่าแบบแรก
 3. Aggressive Grade เกรดนี้เน้นเรื่องประสิทธิภาพในการดึงคราบ ขจัดคราบได้ดีมากกว่าสองแบบแรก แต่เนื้อมักจะหยาบกระด้าง
 
 ดินน้ำมันต้องใช้คู่กับตัวหล่อลื่น หรือ Clay Lubricant ครับ
 
 หลังจากลูบดินน้ำมันเสร็จแล้วก็ถือเป็นการปรับหน้าผิวในระดับหนึ่งครับ สำหรับรถใหม่ที่ยังไม่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก การดูแลก็จะง่ายกว่ารถที่ต้องการการฟื้นฟูครับหากเป็นรถใหม่ที่ผ่านการลูบดินน้ำมันมาแล้ว ผมแนะนำให้เคลือบสีอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะรถสีขาว (ซึ่งหลายคนชอบบ่นกันว่าเหลืองนั่นแหละครับ) การเคลือบสีผมแนะนำว่า หากต้องการดูแลอย่างสม่ำเสมอก็ลงได้สักอาทิตย์ละครั้งยังดีครับ แต่จะผ่อนไปซัก2อาทิตย์ครั้งก็ยังไหวครับ
 
 การจะเคลือบสีนั้นควรมีการเตรียมผิวก่อนลง wax ครับ
 น้ำยาทำความสะอาดและเตรียมพื้นผิว จะแบ่งคร่าวตามนี้ครับ
 1. Cleaner จะเน้นเรื่องทำความสะอาดพื้นผิวอย่างเดียว เช่น ทำความสะอาดคราบน้ำ คราบฝุ่นละอองฝังแน่นบนพื้นผิว รวมทั้ง remove น้ำยาเคลือบสีเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วออกจากพื้นผิว
 2.Prewax จะทำหน้าที่คล้ายลีนเนอร์ แต่กลบรอยบางๆได้ด้วยครับ
 3. All in One คุณสมบัติก็ตามชื่อเลยครับคือทั้งเตรียมผิวและเคลือบสีครับ บางตัวก็สามารถกลบรอยบางๆได้ครับ
 
 สำหรับการลงน้ำยาเตรียมผิวผมแนะนำให้ลองซัก 1 เดือนครั้ง หรือถ้าได้ 2 อาทิตย์ครั้งได้ก็จะดีมากครับ เพราะมีส่วนช่วยให้รักษาสภาพผิวรถอย่างสม่ำเสมอ
 
 ต่อไปเป็นการเคลือบสีครับ
 
 น้ำยาเคลือบสี หรือ Wax หรือ Sealant คือการเคลือบสีเพื่อความสวยงาม ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะให้งานที่แตกต่างกันออกไป อาจจะเป็นแบบที่เค้าติดปากกันว่าเงาใส,เงาฉ่ำนั่นแหละครับ นอกจากจะให้งานที่สวยงามมีมิติตามที่เราต้องการแล้ว ความสำคัญของการเคลือบสีคือการปกป้องผิวสีของรถไปในตัวครับ ซึ่งปกป้องอะไรบ้าง ก็อย่างเช่น ปกป้องจากแสงแดดซึ่งมีผลระยะยาวในการทำลายสีรถ รวมทั้งปกป้องจากสภาวะต่างๆเช่นหน้าฝน ฝุ่น มูลนกฯลฯ ซึ่งการเคลือบสีจะช่วยลดอัตราการฝังแน่นของสิ่งเหล่านี้ หรือง่ายๆคือล้างออกไม่ยากครับ
 
 หากแบ่งตามประเภทของวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิต มักจะแบ่ง Wax หรือ Sealant ได้เป็น 2 แบบคือ
 แบบ Wax คือน้ำยาที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต เช่น Carnauba
 แบบ Synthetic คือน้ำยาที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ได้จากสารสังเคราห์เป็นหลัก ซึ่งเป็นเทคโนโลยียุคต่อมาในการผลิตน้ำยาเคลือบสี
 
 หากแบ่งตามลักษณะหรือสถานะของ Wax หรือ Sealant จะแบ่งได้เป็น 2 แบบเช่นกันคือ
 แบบ Liquid หรือแบบของเหลว มีทั้งที่เป็น Car Waxs และเป็น Paint Sealants
 แบบ Paste หรือแบบเนื้อ ซึ่งก็มีทั้งที่เป็น Car Waxs และเป็น Paint Sealants เช่นกัน และสามารถแบ่งย่อยออกได้อีกเป็น Soft Wax และ Hard Wax
 
 สรุปคร่าวคือ ควรมีการลูบดินน้ำมันเพื่อเตรียมพื้นผิวครับ จากนั้นควรเตรียมผิวด้วยน้ำยาเตรียมผิวซัก2อาทิตย์หรือ1เดือนครั้ง และเคลือบสีสม่ำเสมอทุกอาทิตย์ครับ แล้วจะมั่นใจได้เลยครับว่ารถเราจะสวยเด่นกว่าทั่วไป และยังรักษาความสวยไว้ได้นานครับ
 
 - Synthetic ไม่ได้หมายความแค่พวกเคลือบแก้วเคลือบไทเทเนี่ยมครับ
 - Synthetic คือ สังเคราะห์ครับ ถ้านับในพวกตระกูลwaxก็คือตัวที่มีส่วนผสมสังเคราะห์นั่นแหละครับ
 ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือพวก sealant อย่างแมกไกว์เบอร์21ยอดนิยมแหละครับ พวกsynthetic ผมแบ่งง่ายๆเป็นส่วนผสมแบบ oil basedกับwater based
 แบบoil basedเวลาลงจะให้ความรู้สึกลื่นกว่าครับ แต่ต้องคอยเขย่ามันหน่อย ส่วนwater based จะไม่ลื่นเท่าแต่ฝุ่นเกาะน้อยกว่า ก็แล้วแต่ความพึงพอใจครับ
 ส่วนwax แบบที่ไม่เป็นSyntheticก็คือแบบNaturalก้คือพวกCarnubaธรรมชาติ หรือแบบกระปุกราคาแพงๆที่เห็นแหละครับ
 งานของSealant(สังเคราะห์) เหมาะกับรถที่ต้องการการปกป้องเป็นหลัก เพราะจะให้ผลปกป้องนานกว่าครับ
 งานของPaste Wax(ธรรมชาติ) เหมาะกับรถที่เน้นความงามเป็นหลักครับ
 
 ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือการลงแบบเคลือบสีปกติครับ
 
 ส่วนพวกเคลือบแก้ว เคลือบไททาเนี่ยมอะไรที่คุณถาม ผมขอเรียกว่าการ coating ครับ
 คือเหมือนเป็นการสร้างชั้นผิวขึ้นอีกชั้นครับ โดยน้ำยาเคลือบ (แน่นอนว่าต้องเป็น Syntheticอยู่แล้ว) จะมีลักษณะเป็นLiquid
 ส่วนมากจะใช้ไดร์ร้อนช่วยในการเคลือบครับ งานที่ได้จะเป็นคนละแบบกับการเคลือบสี เพราะการทำcoatingเน้นการปกป้องสีผิวในระยะที่ยาวมาก เพราะฉะนั้นจึงมีราคาแพง
 
 งานcoatingส่วนมากจะให้ความเงาใสแบบเห็นได้ชัดครับ ระยะเวลาเป็นปีๆ(อาจต้องเข้าไปmaintenanceตามที่ร้านกำหนด)การเคลือบประเภทนี้จะคงความเงาไว้นาน รถไปลุยโคลนแห้งทิ้งไว้ ล้างก็ออกมาเงาครับเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลบ่อยๆนัก หรือ ถ้าเงินถึงอยากทำก็ควรศึกษาก่อนว่าชอบแบบไหน
 
 ทีนี้พอจะทราบความแตกต่างนะครับ เดี๋ยวจะแจกแจงข้อดี/เสีย ความคุ้มค่าให้ครับ
 
 ข้อดี ลงwax
 1.ต้นทุนต่ำกว่า (ยิ่งถ้าทำเองจะถูกมาก)
 2.เราเลือกหน้างานได้ (จะเงวา จะฉ่ำ จะอะไรก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอด)
 
 ข้อเสีย
 1.ต้องดูแลสม่ำเสมอ
 2.การปกป้องไม่ได้มากขนาด coating
 
 ข้อดีของการทำ Coating
 1.ระยะเวลายาวนาน
 2.ล้างออกง่าย ไม่ต้องทำอะไรมาก
 
 ข้อเสีย
 1.ราคาแพง
 2.ส่วนมากจะลงwaxอื่นๆทับไม่ได้ นอกจากตัวMaintenanceของมันเอง
 
 ความคุ้มค่า
 
 1.ต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบแบบไหน
 -ครั้งเดียวจบ ไม่ต้องอะไรบ่อยๆ ก็ทำcoating
 -ชอบเห็นงานหลายๆแบบ มีเวลาทำซักอาทิตย์/ครั้ง ลงwax
 2.งบประมาณ
 -มีเป็นหมื่น ก็ทำได้ครับ
 -งบไม่มาก ลงwaxเอาก็ได้ครับ ใส่ใจหน่อยรถก็สวยได้เหมือนกัน
- 
				ขอบคุณพี่โต้งสำหรับความรู้ในการดูแลสีรถครับ :sd23: ที่ร้านพี่มีบริการครบทุกอย่างที่ว่ามาเลยใช่มั๊ยครับ :L4384: :L4384:
			
- 
				ขอบคุณพี่โต้งสำหรับความรู้ในการดูแลสีรถครับ :sd23: ที่ร้านพี่มีบริการครบทุกอย่างที่ว่ามาเลยใช่มั๊ยครับ :L4384: :L4384:
 
 
 ไม่กล้าตอบ เดี๋ยว Mod เพ่งเล็งครับ
 อ่านเจอมา ก็เลยเอามาแบ่งๆกันครับ
- 
				ขอบคุณพี่โต้งสำหรับความรู้ดีๆๆ ผมไม่อยากบอกว่าผมพึ่งรู้นี่แหละว่าการล้างรถมันมีอะไรมากกว่าการเอานำ้มาฉีดเอาผ้ามาถู เช็ดให้แห้ง รถผมผ่านมา3เดือนแล้วใช้นำ้ฝนล้างอย่างเดียว 55555 
			
- 
				ขอบคุณพี่โต้งมากครับ  :L2753: :L2734:
			
- 
				ชัดเจนแจ่มแจ๋วไปเลยครับพี่โต้ง  :L2734:
			
- 
				 :L2900: :L2900: :L2900:
 
 ขอบคุณครับพี่โต้ง
 ความรู้ทั้งนั้น
 ขอบคุณมากครับ
 
 :L2758: :sd23:  :L2758: :sd23:  :L2758: :sd23:
- 
				ขอบคุณพี่โต้งมากๆนะครับ
			
- 
				ขอบคุณครับพี่โต้งสำหรับข้อมูลดีๆ 
			
- 
				 :sd23: ขอบคุณข้อมูลพี่โต้งครับ
			
- 
				 :sd23: ขอบคุณข้อมูลความรู้มากๆครับพี่โต้ง  :L2734:
			
- 
				ขอบคุณครับพี่ลุงโต้งที่นำข้อมูลดีดีมาแนะนำครับ :sd23:
			
- 
				 :sd23: ขอบคุณครับ ลุงโต้งที่นำข้อมูลการดูแลรถดีๆมาแนะนำเสมอมา :sd23:
			
- 
				ข้อมูลพี่โต้งดีมากคับ  :L2900:
			
- 
				 :sd27: ขอบคุณมากเลยครับ พี่โต้ง ผมลงทุนซื้ออุปกรณ์มาละ เดียวลงมือเองเลย 
 ออกแรงหน่อยได้ ความสวยงามและออกกำลังกายด้วย นะ  :sd10: :sd10:
- 
				 :sd27: ขอบคุณมากเลยครับ พี่โต้ง ผมลงทุนซื้ออุปกรณ์มาละ เดียวลงมือเองเลย 
 ออกแรงหน่อยได้ ความสวยงามและออกกำลังกายด้วย นะ  :sd10: :sd10:
 
 
 เลือกใช้ให้ถูกต้องนะครับ ไม่งั้น ขนแมวเพียบครับ
- 
				 :sd27: ขอบคุณมากเลยครับ พี่โต้ง ผมลงทุนซื้ออุปกรณ์มาละ เดียวลงมือเองเลย 
 ออกแรงหน่อยได้ ความสวยงามและออกกำลังกายด้วย นะ  :sd10: :sd10:
 
 
 พี่บูรณ์ไหนๆก็ลงทุนแล้ว ไปดูงานที่ร้านพี่โต้งสักหน่อยก็น่าจะดีเหมือนกันนะครับ ;D ;D ;)
- 
				เข้ามาเก็บข้อมูล ขอบคุณพี่โต้งสำหรับข้อมูลดีๆครับ  :L2734:
			
- 
				ขอบคุณ พี่โต้ง สำหรับข้อมูลดีๆครับ  :L4399:
 ถ้าจะให้ดี....การดูแลรักษาสีรถใหม่ให้อยู่ไปนานๆ นั้น... :L2761:
 ก็ไปร้าน พี่โต้ง บ่อยๆ...รับรอง ใหม่เอี่ยมตลอดกาลนานเลย  :L2739: